จุรินทร์ ชี้ ประธานที่ประชุม ขึ้นอยู่กับผลลงคะแนนในที่ประชุม ไม่มีกฎต้องเป็นพรรคไหน



จุรินทร์ ชี้ ตำแหน่งประธานที่ประชุม ขึ้นอยู่กับผลคะแนนห้องประชุมรัฐสภา เปิดเผย ไม่มีระเบียบควรจะเป็นพรรคการเมืองใด แม้กระนั้นขึ้นกับเหตุการณ์แต่ละยุค

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ที่กระทรวงพาณิชย์นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และก็รมว.การค้า ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกประธานรัฐสภาว่า ขึ้นอยู่ที่การลงคะแนนในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า จะเลือกบุคคลใดเป็นประธานสภาฯ โดยไม่มีระเบียบใดแน่ๆว่าต้องเป็นของพรรคการเมืองใดยังไง อยู่ที่เมื่อถึงเวลามีผู้เสนอชื่อให้เข้ารับลงคะแนนเป็นประธานที่ประชุมฯ ในที่ประชุมกี่คน แล้วก็ห้องประชุมสภาฯ ก็ลงคะแนน เป็นเรื่องจริงที่เป็นเช่นนั้นมา

เมื่อถามถึงส่วนที่เป็นห่วงว่าประธานรัฐสภาจะมีผลต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ พูดว่า ตนคิดว่ารัฐธรรมนูญรวมทั้งหลักเกณฑ์กติกาเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตกาล ในอดีตกาลเวลาจะมีการนำชื่อนายกฯขึ้นทูลเกล้าฯ อยู่ที่พรรคการเมืองใดจะรวมเสียง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้มากเท่าใด รวมทั้งเรียนให้ประธานรัฐสภารับทราบ โดยประธานวิเคราะห์และก็นำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า แต่ในปัจจุบันรัฐธรรมนูญแปรไป ด้วยเหตุว่านายกฯ จำเป็นจะต้องเลือกลงคะแนนในที่ประชุมรัฐสภา เป็นห้องประชุมร่วม ส.ส. แล้วก็ส.ว. ด้วยเหตุนั้นจึงขึ้นอยู่กับผลของการลงคะแนน ด้วยเหตุนั้น หน้าที่ของประธานที่ประชุมฯ สำหรับการนำชื่อนายกฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ ก็ลดลง ด้วยเหตุว่าขึ้นอยู่กับผลการลงคะแนนในที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ที่จะต้องเป็นเช่นนั้น

เมื่อถามว่า ต้องหรือไม่ ที่ประธานที่ประชุมฯ จะต้องมาจากพรรคที่ได้คะแนนสูงที่สุด นายจุรินทร์ พูดว่า อยู่ที่ผลของการลงคะแนนในห้องประชุม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีทั้งกรณีที่พรรคที่ได้คะแนนมาอันดับต้นๆ และไม่ได้คะแนนมาลำดับแรกๆ ขึ้นกับเหตุการณ์ในแต่ละยุคสมัย กับผลของการลงคะแนน

ผู้สื่อข่าวถามคำถามว่า ตำแหน่งประธานรัฐสภาจะต้องเป็นบุคคลที่มีความอาวุโสหรือไม่ นายจุรินทร์ พูดว่า คุณลักษณะของประธานรัฐสภาเขียนเอาไว้ภายในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ว่าจะต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะเหตุว่าแม้ไม่เป็น ก็เป็นประธานรัฐสภามิได้ แล้วก็คุณลักษณะ ส.ส. เป็นอย่างไรบ้างก็มีระบุไว้แจ่มแจ้ง และก็ต้องประกอบกับห้องประชุมเลือกมาเป็นลำดับหนึ่ง จะเป็นบุคคลรุ่นไหนก็ได้ ที่มีศักยภาพและก็ที่ประชุมฯ เลือกมา

เมื่อถามว่า ไทม์ไลน์การเลือกประธานสภาฯ จะเป็นตอนๆไหนนายจุรินทร์ กล่าวบอกว่า ตนไม่สามารถตอบได้ จำต้องนับหนึ่งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) การันตี ส.ส.เสียก่อน แม้มีการยืนยันแล้วจึงจะเรียกสัมมนาสภานิติบัญญัติได้

นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่อประเด็นการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขึ้นอยู่กับการลงคะแนนในที่ประชุมสภานิติบัญญัติว่า จะเลือกบุคคลใดโดยไม่มีระเบียบที่จะแน่นอน ว่าต้องเป็นของพรรคการเมืองใด ยังไง อยู่ที่เมื่อถึงเวลามีผู้เสนอชื่อให้เข้ารับเลือกตั้งเป็นประธานรัฐสภาห้องประชุมกี่คน และห้องประชุมก็ลงคะแนน เรื่องจริงเป็นแบบนั้นมา
ส่วนที่เป็นห่วงว่าประธานสภาฯ จะส่งผลต่อการเลือกคนที่จะมาเป็นนายกฯนั้น ตนเห็นว่า รัฐธรรมนูญและระเบียบข้อตกลงเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตกาล “ในอดีตเวลาจะมีการนำชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ อยู่ที่พรรคการเมืองใดจะรวมเสียงส.ส.ได้มากเพียงใด และก็เรียนให้ประธานที่ประชุมฯ รับรู้และประธานฯจะตรวจตรา เพื่อนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ แม้กระนั้นในตอนนี้รัฐธรรมนูญแปรไป

ด้วยเหตุว่านายกฯจะต้องเลือกลงคะแนนในที่ประชุมสภานิติบัญญัติ คือห้องประชุมร่วมส.ส. รวมทั้งวุฒิสมาชิก ข่าวดารา ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงขึ้นอยู่กับผลกันการลงคะแนน เพราะฉะนั้นหน้าที่ของประธานที่ประชุมฯ ในการนำชื่อนายกฯขึ้นทูลเกล้าฯก็น้อยลง เพราะว่าขึ้นกับผลของการลงคะแนนในห้องประชุมรัฐสภา ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ที่ต้องเป็นเช่นนั้น” นายจุรินทร์กล่าว

ผู้รายงานข่าวถามคำถามว่า จำเป็นหรือเปล่า ที่ประธานสภาฯจะต้องมาจากพรรคการเมืองที่ได้คะแนนมากที่สุด นายจุรินทร์ บอกว่า อยู่ที่ผลของการลงคะแนนในห้องประชุม ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ก็มีทั้งยังในกรณีที่พรรคที่ได้คะแนนมาอันดับหนึ่ง และไม่ได้คะแนนมาลำดับหนึ่ง ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในแต่ละยุคสมัย กับผลการลงคะแนน

ผู้รายงานข่าวถามว่า ตำแหน่งประธานรัฐสภาควรจะเป็นบุคคลที่มีความอาวุโสไหม นายจุรินทร์ กล่าวว่า คุณลักษณะของประธานสภาฯเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้วว่า จะต้องเป็นส.ส. เนื่องจากถ้าเกิดไม่เป็น ก็เป็นประธานสภาฯไม่ได้อยู่แล้ว และคุณลักษณะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คืออะไรบ้างก็มีกำหนดให้ชัดเจน รวมทั้งจำต้องประกอบกับที่ประชุมเลือกมาเป็นลำดับหนึ่ง จะเป็นบุคคลรุ่นไหนก็ได้ เป็นบุคคลที่มีประสิทธิภาพและก็เป็นบุคคลที่ที่ประชุมเลือกมา

ผู้สื่อข่าวถามคำถามว่า เห็นว่าไทม์ไลน์การเลือกประธานที่ประชุมฯ จะเป็นตอนๆไหน นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่อาจจะตอบได้ จำเป็นต้องนับหนึ่งที่คณะกรรมการการเลือกตั้งรับรองผู้แทนราษฎรซะก่อน หากมีการรับประกันแล้วจึงจะเรียกสัมมนารัฐสภาได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *